หลังจากที่ได้แนะนำซีรีส์เรื่องโปรดไปใน Part I กลับมาอีกครั้งกับการเขียนแนะนำซีรีส์และคาดว่าจะมีพาร์ทอื่น ๆ ตามมาอีกในอนาคต 😆
Never have I ever (2020)
ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องราวของ เดวี่ วิศวกุมาร เด็กสาวอินเดียที่เติบโตขึ้นมาในสังคมอเมริกัน ที่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตเป็นเด็กปกติในโรงเรียน จากการที่พ่อของเธอเสียชีวิตทำให้เธอช็อกจนเดินไม่ได้ และอยากได้รับการยอมรับด้วยความที่เป็นเด็กเอเชีย นอกจากวัฒนธรรมของสังคมอินเดียในอเมริกาแล้ว ยังได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเพื่อน ๆ รวมถึงเรื่องราวความรัก และครอบครัว ให้ตัวละครค่อยแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้เราได้เรียนรู้และดูการเติบโตขึ้นของตัวละคร แม้ว่าสิ่งที่ทำบางอย่างจะดูน่าขัดใจในตอนแรก แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกตัดสินใจทำในสิ่งที่จะทำให้กลายเป็นคนที่ดีขึ้น
Emily in Paris (2020)
เรื่องราวของเอมิลี่หญิงสาวชาวอเมริกันที่ย้ายสถานที่ทำงานไปทำงานด้านมาร์เก็ตติ้งในสาขาที่ฝรั่งเศส ทั้งปัญหาด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม และภาษา ทำให้เอมิลี่ต้องรับมือกับความแตกต่างเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่นการทำงานสไตล์ฝรั่งเศส ที่ยังคงต้องเผชิญกับสังคมชายเป็นใหญ่ และการภาคภูมิใจกับสิ่งเดิม ๆ ยากที่จะเปลี่ยนแปลงของคนฝรั่งเศส เอมิลี่จึงไม่ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากนี้เรื่องราวความรักของเอมิลี่ที่สลับซับซ้อนก็น่าติดตามเช่นกัน
Unbelieveable (2019)
มินิซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของ มารี แอดเลอร์ เหยื่อคดีข่มขืนที่ตัดสินใจแจ้งความ การให้ปากคำที่เหยื่อต้องเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา แต่คนกลับคิดว่าเธอโกหก เธอยอมแพ้ให้กับกระบวนการที่ไม่ยุติธรรมและกลับคำให้การว่าเธอคิดไปเอง นำไปสู่การปิดคดี ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า โดนคนอื่นหาว่าเธอโกหก แต่แล้วคดีที่คล้าย ๆ กันนี้ได้เกิดขึ้นกับอีกเมืองหนึ่ง ผู้ที่เป็นเหยื่อนั้นอายุเยอะกว่าและจดจำรายละเอียดของคนร้ายได้ดีกว่า และเจ้าหน้าที่เต็มที่กับการทำงานมากกว่านำไปสู่การไขคดีที่เชื่อมโยงกับคดีแรกทำให้ต้องมีการรื้อคดีที่ถูกปิดไปแล้วขึ้นมาใหม่
Wanted (2016-2018)
โลล่า และ เชลซี หญิงสาวสองคนที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แค่ยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายรถเมล์ตอนกลางคืนก็ดันเจอรถพุ่งเข้ามาชน และได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีคนถูกฆาตกรรม ทั้งโลล่าและเชลซีถูกจับเป็นตัวประกัน เรื่องราวยิ่งบานปลายเพราะทั้งสองคนถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ก่อคดีฆาตกรรม และกลายเป็นคนที่ถูกตามล่าจากทั้งตำรวจและผู้มีอิทธิพล (ซึ่งก็คือตำรวจที่ก่อคดีทุจริต) ทั้งสองต้องหนีการตามล่าของตำรวจและผู้มีอิทธิพลไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งสถานที่ในอดีตของพวกเธอ รวมถึงการหนีออกนอกประเทศ ไปยังประเทศไทย และนิวซีแลนด์ ตัวโลล่าและเชลซีต้องหาทางเอาตัวรอดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องมาตามลุ้นกัน
The Hungry and the Hairy (2021)
วาไรตี้นำเที่ยวของคู่ซี้คู่ใหม่ โนฮงชอล ฉายา หนุ่มหนวด และ เรน (ชองจีฮุน) ฉายา จอมหิว ที่ได้เงินสนับสนุนจาก Netflix ออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยการขี่มอเตอร์ไซต์ซึ่งเป็นทริปในฝัน โดยเน้นการพากินพาเที่ยวสถานที่สวย ๆ ในเกาหลีใต้ รวมถึงการโชว์ทำอาหารอร่อย ๆ จากเรน รวมไปถึงบอกเล่าไลฟ์สไตล์ของแขกรับเชิญ นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญอย่าง อีฮานี อดีตนางงาม และคู่รักจากเกาะเชจูอย่าง อีฮโยริกับอีซังซุน มาร่วมแจมความสนุก พร้อมร่วมทำเพลงประกอบรายการเพราะ ๆ อีกด้วย การันตีด้วยผลงานกำกับรับประกันความสนุกของคิมแทโฮพีดี ผู้ที่เคยมีผลงานกำกับจาก Infinite Challange และ Hang out with Yoo เตรียมขำไหล่สั่นในความตลกของฮงชอลและเรน รวมถึงแขกรับเชิญได้ตลอดทั้งเรื่อง
I like to stay at home, writing random stuff and watching series. I enjoy learning new things and exploring new ideas.