
หลายคนอาจเคยถูกเพื่อนร่วมห้องทักว่านอนละเมอพูดอะไรก็ไม่รู้เมื่อคืน ซึ่งการได้ยินเช่นนี้อาจทำให้คุณเสียเซลฟ์และรู้สึกกระวนกระวายใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เช่น “ฉันพูดอะไรน่าเขินหรือเปล่า” หรือ “ฉันเผลอพูดอะไรไม่ดีออกไปหรือเปล่า” นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่คำพูดของเราอาจเผยให้เห็นถึงความปรารถนาในจิตใต้สำนึกที่เราไม่รู้ตัว นั่นทำให้เรารู้สึกวิตกกังวลไปทั้งวันว่า “ฉันพูดอะไรออกไป”
โดยปกติแล้ว คำพูดของผู้ที่นอนละเมอไม่มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าอาจทำให้เจ้าตัวรู้สึกอับอาย การศึกษาพบว่าการพูดในขณะหลับส่วนใหญ่เป็นเพียงการพูดสั้น ๆ ไร้สาระเป็นเวลาเพียง 1-2 วินาที
การนอนละเมอพูด (Sleep talking) หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า Somniloquy เป็นหนึ่งในพฤติกรรมผิดปกติที่พบบ่อยที่สุดที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างนอนหลับ การพูดคุยในขณะหลับโดยไม่รู้ตัวอาจเกี่ยวข้องกับบทสนทนา, บทพูดคนเดียวที่ซับซ้อน, การพูดจาไร้สาระ, ร้องกรี๊ด, แหกปากตะโกน, หรือแค่พึมพำออกมาเท่านั้น
การนอนละเมอพูด (Sleep talking) เป็นประเภทหนึ่งของภาวะนอนละเมอ (Parasomnia) ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติในระหว่างการนอนหลับ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงเฉพาะของวงจรการนอนหลับ อาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่ลูกตาเคลื่อนไหวเร็ว (REM) หรือช่วงที่ลูกตาไม่เคลื่อนไหว (Non-REM) ในทั้งสองกรณี จะเกิดขึ้นเมื่อความตื่นตัวเข้ามารบกวนในระหว่างที่เราหลับ ทำให้เราสามารถพูดในขณะที่หลับ (แต่ทำให้พูดไม่ค่อยเข้าใจ) ซึ่งการนอนละเมอพูดถือว่าแตกต่างจากการเปล่งเสียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการนอนหลับ เช่น อาการนอนกรนตอนกลางคืน (Catathrenia) ซึ่งเป็นอาการผิดปกติของการหายใจที่ทำให้เกิดเสียง หรืออาการผิดปกติของพฤติกรรมขณะนอนหลับในช่วง REM (RBD)* ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำที่บุคคลนั้นฝันไป
*REM Sleep Behavior Disorder (RBD) คือ ความผิดปกติในการนอนหลับที่เกิดขึ้นในช่วง REM Sleep
ทำให้มีอาการนอนละเมอ ขยับแขนขาผิดปกติ และมีการออกเสียงในช่วงการนอน
ภาวะนอนละเมอส่วนใหญ่ถือเป็นภาวะผิดปกติที่ผสมผสานระหว่างการตื่นตัวและการนอนหลับ ภาวะนี้มักเกิดขึ้นเมื่อการนอนหลับของคุณถูกรบกวน จากการศึกษาพบว่าผู้คนมากถึง 66% เคยมีประสบการณ์การละเมอพูด ทำให้เป็นหนึ่งในภาวะนอนละเมอที่พบบ่อยที่สุด อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก มีเพียง 17% ของผู้ที่รายงานว่ามีอาการละเมอพูดในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา แม้แต่ผู้ที่นอนละเมอพูดเป็นประจำก็อาจต้องได้รับการบันทึกอาการไว้เป็นเวลา 4 คืนหรือมากกว่านั้น จึงจะบันทึกอาการได้
การนอนละเมอพูดถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็ก เมื่อพบเจอวันที่สนุกสนาน และในผู้ใหญ่หลังจากที่เจอเกิดเหตุการณ์สำคัญหรือเครียด การนอนละเมอพูดสามารถเกิดขึ้นได้ในบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ก็อาจเกี่ยวข้องกับโรคต่าง ๆ เช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับ อาการฝันร้าย อาการปวดหัวเรื้อรัง และยังเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียดทางอารมณ์ และฝันร้าย
อาการของผู้ที่นอนละเมอพูด
อาการหลักของการละเมอพูดคือ การร้องหรือส่งเสียงในขณะหลับโดยที่บุคคลนั้นไม่รู้ตัว อาจเป็นการพูดจาไร้สาระหรืออาจคล้ายกับการพูดปกติ มีการศึกษาด้านภาษาศาสตร์เกี่ยวกับการนอนละเมอพูดพบว่า การนอนละเมอพูดของผู้ที่ถูกบันทึกไว้ จำนวนครึ่งหนึ่งนั้นไม่สามารถเข้าใจได้ โดยปกติการละเมอพูดจะเป็นการพูดพึมพำ พูดเงียบ ๆ (ขยับริมฝีปากโดยมีเสียงเพียงเล็กน้อย) หรือถูกกลบด้วยหมอนหรือผ้าห่ม และผู้นอนละเมอพูดอีกครึ่งหนึ่งที่เข้าใจได้กลับมีความคล้ายคลึงกับการสนทนาปกติหลายประการ เช่น การพูดถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทั่วไป และมีการหยุดชั่วคราวราวกับว่ากำลังพูดคุยกับบุคคลอื่นจริง ๆ
โดยคำพูดของผู้ที่นอนละเมอที่ถูกบันทึกไว้มักเป็นการพูดในเชิงลบ อุทาน หรือหยาบคาย ซึ่งบ่งชี้ว่าการพูดขณะนอนหลับอาจสะท้อนถึงบทสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสมองขณะหลับ ผู้คนแทบไม่รู้ตัวว่าพวกเขากำลังเปล่งเสียงออกมาในขณะนอนหลับ และโดยทั่วไปจะจำเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ได้เลยเมื่อตื่นนอน การนอนละเมอพูดมักจะเป็นการพูดสั้น ๆ และไม่ค่อยมีบทสนทนาที่ยืดเยื้อ โดยอาจพูดออกมาเพียงไม่กี่คำหรือไม่กี่ประโยค
มีผลการวิจัยหลากหลายเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเนื้อหาในการพูดคุยขณะนอนหลับว่าคำพูดอาจไม่มีความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับชีวิตของบุคคล เหตุการณ์ล่าสุด หรือการสนทนาที่ผ่านมา มีหลักฐานบางอย่างบ่งชี้ว่าการนอนละเมอพูดอาจเกี่ยวข้องกับความฝันเพียงบางครั้งแต่ไม่ได้เชื่อมโยงกับกิจกรรมในฝันทั้งหมด
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการนอนละเมอพูด
การพูดคุยขณะหลับไม่เป็นอันตราย แต่ก็อาจจะรบกวนผู้อื่นได้หากคุณต้องนอนร่วมห้องกับคนรักหรือรูมเมท ซึ่งสิ่งนี้นำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น นอนหลับไม่เต็มอิ่มทำให้รู้สึกง่วงนอนระหว่างวัน หากคำพูดระหว่างที่นอนละเมอสร้างความอับอายหรือความอึดอัดระหว่างคุณและคู่ครองหรือรูมเมท
และหากการนอนละเมอพูดเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะนอนละเมออื่น ๆ เช่น ฝันร้าย (Nightmare Disorder) หรือละเมอเดิน (sleepwalking) ก็อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาการนอนหลับที่ร้ายแรงกว่า อาจทำให้ผู้ที่ประสบปัญหานี้นอนหลับไม่ต่อเนื่องหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
สาเหตุของการนอนละเมอพูด
ผู้เชี่ยวชาญไม่แน่ใจว่าทำไมผู้คนจึงละเมอพูด เนื่องจากมีข้อมูลของการละเมอพูดที่ไม่ชัดเจน แต่ถึงอย่างไรมีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการละเมอพูดมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม เด็กที่ละเมอมักจะมีพ่อแม่ที่นอนละเมอแบบเดียวกันหรือยังคงละเมออยู่
ในการศึกษาฝาแฝดพบว่าการละเมอพูดมักเกิดขึ้นพร้อมกับการละเมอลุกขึ้นเดิน, การนอนกัดฟัน, และนอนฝันร้ายทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจมีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมร่วมกัน จึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจถึงความเชื่อมโยงเหล่านี้ให้ดีขึ้น
อีกทั้งยังพบว่าการละเมอพูดมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตหรือภาวะต่าง ๆ เช่น โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD), ภาวะซึมเศร้า, เกิดจากความวิตกกังวล, การพบเจอเรื่องเครียด, หรือกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างวันและยังไม่ได้รับการแก้ไข การละเมอยังเกี่ยวข้องกับฝันร้าย โดยเฉพาะในเด็กที่พบว่ามีการละเมอพูดร่วมกับการละเมอเดิน การนอนกัดฟัน และฝันร้าย
นอกจากนี้ยังพบว่ายาบางชนิด เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า ก็ทำให้เกิดการละเมอพูดได้เช่นกัน ยากระตุ้นและเพิ่มโทนของกล้ามเนื้อในช่วง REM ทำให้เกิดภาวะนอนละเมอ เช่น การละเมอพูด และการละเมอเดิน อีกสาเหตุหนึ่งของการละเมอพูดคือ การดื่มแอลกอฮอล์ โดยพบว่าบุคคลจะละเมอพูดมากขึ้นเมื่อหลับภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์ หรือการมีไข้สูงยังเป็นสาเหตุหนึ่งของการนอนละเมออีกด้วย พบว่าผู้ป่วยที่มีไข้สูงละเมอพูดเป็นเรื่องปกติ และมักจะมีอาการดังกล่าวเป็นเวลานานกว่าอาการละเมอพูดระยะสั้น ๆ ด้วย
คำแบบไหนที่คนนอนละเมอชอบพูด
ทีมนักวิจัยจากสถาบันหลายแห่งในฝรั่งเศสได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการละเมอพูด พบว่าการละเมอพูดส่วนใหญ่มักเป็นคำพูดเชิงลบและการพูดจาหยาบคายจำนวนมาก ในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับการนอนหลับกลุ่มนักวิจัยได้บรรยายถึงการศึกษาวิจัยของพวกเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเกตและบันทึกอาสาสมัครหลายร้อยคนขณะที่พวกเขานอนหลับ
โดยพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะนอนละเมอพูดถึงเรื่องในบางช่วงของชีวิต ซึ่งนักวิจัยได้ระบุว่ายังไม่มีการวิจัยมากพอเพื่อค้นหาว่าคนที่กำลังนอนหลับจะพูดอะไร และเพื่อค้นหาคำตอบนั้น กลุ่มนักวิจัยได้ขอความช่วยเหลือจากอาสาสมัคร 230 คน ที่ตกลงว่าจะนอนในห้องแล็บของนักวิจัยเป็นเวลา 2 คืนพร้อมกับการถูกบันทึกเสียงไว้ เมื่อสังเกตว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ละเมอพูดบ่อยนัก นักวิจัยจึงจำกัดผู้เข้าร่วมให้เฉพาะผู้ที่มีความผิดปกติในการนอนหลับ จึงพบผู้ที่นอนละเมอพูดบ่อยขึ้น ทำให้นักวิจัยสามารถบันทึกคำพูดของผู้ที่นอนละเมอได้มากกว่า 900 ตัวอย่างจากการศึกษาวิจัยนี้
จากการวิเคราะห์ข้อมูล นักวิจัยพบว่าอาสาสมัครที่พูดในขณะหลับจะพูดคำว่า “ไม่” บ่อยกว่าตอนที่ตื่นถึง 4 เท่า นอกจากนี้ พวกเขายังพบด้วยว่ามีคนพูดคำว่า “ไม่” บ่อยกว่าตอนที่ตื่นมาก โดยเฉลี่ยแล้วมักจะสบถคำหยาบ (f-word) มากกว่าตอนที่ตื่นถึง 800 ครั้ง
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังพบว่า 59% ของสิ่งที่อาสาสมัครพูดในขณะหลับนั้นไม่สามารถตีความได้ และคำพูดในขณะหลับมักจะปะปนกับเสียงอื่น ๆ เช่น เสียงพึมพำ หรือเสียงหัวเราะ พวกเขายังสังเกตด้วยว่าสิ่งที่ผู้คนพูดในขณะหลับนั้นมักจะเป็นคำพูดที่ก้าวร้าว พวกเขาอธิบายสิ่งที่ได้ยินส่วนใหญ่ว่าเป็นคำพูดที่น่ารังเกียจ และสังเกตว่าส่วนใหญ่เป็นคำพูดเชิงลบ นักวิจัยยังพบอีกว่าเมื่ออาสาสมัครพูดในขณะหลับ ส่วนใหญ่จะพูดด้วยหลักไวยากรณ์ที่ถูกต้อง ซึ่งทีมวิจัยชี้ให้เห็นว่าระบบประสาททำงานในลักษณะที่คล้ายกับตอนที่ตื่น แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าทำไมผู้คนจึงพูดในขณะหลับ หรือทำไมพวกเขาจึงพูดสิ่งนั้นออกมา นักวิจัยที่ทำการทดลองใหม่นี้พบว่ามีทฤษฎีบางอย่างชี้ให้เห็นว่าการฝันเป็นหนทางในการประมวลผลภัยคุกคาม ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไมคำพูดจำนวนมากที่หลุดออกมาในระหว่างฝันจึงเป็นคำพูดเชิงลบ
How to หยุดการละเมอพูด!
โดยทั่วไปแล้วการนอนละเมอมักเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ต้องนอนร่วมกับคนที่นอนละเมอมากกว่า ไม่มีวิธีการหรือยาในการหยุดการละเมอ อย่างไรก็ตามความถี่ของการละเมอสามารถจัดการและลดการนอนละเมอลงได้
หากคุณรู้สึกว่าต้องการหยุดนอนละเมอเพราะรู้สึกอายคู่นอนหรือเพื่อนร่วมห้อง ก็มีวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการปรับพฤติกรรม และสร้างเสริมสุขอนามัยในการนอนหลับ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมในการนอนหลับก็อาจส่งผลให้มีการนอนหลับที่ดีขึ้น
การนอนหลับสนิทโดยปราศจากสิ่งรบกวนอาจช่วยป้องกันภาวะนอนละเมอได้ เริ่มต้นด้วยการปรับพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ออกกำลังกายระหว่างวันและรับแสงแดดเป็นประจำ หรือแม้แต่การปรับพฤติกรรมการนอนด้วยจัดตารางการนอนหลับให้มีระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมและตรงเวลา รวมทั้งนอนและตื่นในเวลาเดิมทุกวันก็อาจช่วยลดการละเมอได้ เพราะจะทำให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น และเนื่องจากคนส่วนใหญ่มักละเมอเมื่อเครียด ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล การหลีกเลี่ยงไม่ให้เครียดระหว่างวันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนเข้านอนควรจะสงบสติอารมณ์และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเครียดก่อนนอนให้ได้ รวมถึงให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลายก่อนนอน เช่น หรี่ไฟ และเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอน แนะนำให้หลีกเลี่ยงคาเฟอีนหรือสารกระตุ้นอื่น ๆ ในช่วงบ่ายแก่ ๆ และช่วงค่ำ เพื่อให้หลับสนิทตลอดคืน
นอกจากนี้สุขอนามัยในการนอนมีความสำคัญต่อการควบคุมการละเมอและลดความถี่และความรุนแรงของการละเมอ ควรจำกัดแสงและเสียงในห้องนอนไม่ให้มีเสียงรบกวน มีแสงสลัว มีผ้าม่านสีเข้ม จัดเตรียมที่นอนให้ดี มีหมอนและผ้าปูที่สะอาดก็ช่วยส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพได้เช่นกัน
ซึ่งหากยังคงประสบกับปัญหาการนอนละเมอพูด หรือมีปัญหาด้านการนอนหลับอื่น ๆ , หรือมีอาการง่วงนอนมากเกินไประหว่างวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยหาสาเหตุของปัญหาดังกล่าวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
เมื่อต้องนอนร่วมกับคนนอนละเมอพูด จะนอนหลับให้ดีขึ้นได้อย่างไร
แน่นอนว่าเพื่อนร่วมห้องหรือคู่นอนของคุณจะได้รับผลกระทบจากปัญหานี้อย่างแน่นอน ถ้าพวกเขาได้ยินเสียงละเมอพูดแล้วต้องสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกและเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองกับคำพูดที่มาจากการละเมอของคุณ เมื่อเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกคุณสั่นคลอนได้ อาจต้องแก้ปัญหาด้วยการ:
- ใส่ที่อุดหูหรือหูฟังเพื่อที่จะไม่ได้ยินเสียงละเมอพูด
- ใช้เครื่องเล่นเสียงสีขาว (white noise) หรือเปิดพัดลมเพื่อกลบเสียงนอนละเมอ
- หากเป็นไปได้แนะนำให้แยกห้องนอน เพราะการนอนคนละห้องสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากการละเมอพูดของอีกฝ่ายได้
Links to related Sites: - Sleep Talking: What Is Somniloquy?, sleepfoundation - Causes of Somniloquy (Sleep Talking), news-medical - Why Do People Talk In Their Sleep?, livescience - Study reveals what sleep talkers have to say, medicalxpress
I like to stay at home, writing random stuff and watching series. I enjoy learning new things and exploring new ideas.