วันปีใหม่กำลังใกล้เข้ามา ช่วงสิ้นปีแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่หลาย ๆ คนก็คงกำลังเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข มีประเพณีมากมายที่เกิดขึ้นในวันปีใหม่ ดังเช่นเรื่องเล่าด้านล่างนี้
เพลงวันปีใหม่
“Auld Lang Syne“ เป็นเพลงภาษาสกอตที่แต่งขึ้นโดย โรเบิร์ต เบิร์นส์ (Robert Burns) ในปี 1788 โดยเนื้อเพลงบางท่อนมีการปรับเปลี่ยนมาจากเพลงพื้นบ้านเก่าแก่ “Old Long Syne“ ซึ่งเพลงนี้เป็นที่นิยมในหมู่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ผู้คนมักเลือกเปิดเพลงนี้ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากนี้ยังถูกเปิดในงานศพ งานจบการศึกษา และในงานอำลาต่าง ๆ และในคลิปด้านล่างนี้คือเวอร์ชันที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
ปัจจุบันหลาย ๆ ประเทศได้นำทำนองของเพลง Auld Lang Syne มาแต่งให้เข้ากับบทเพลงอำลาต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่นได้ทำนองเพลงนี้มาแต่งเพลง Hotaru no Hikari (蛍の光) มาร้องเป็นเพลงจบการศึกษา หรือในประเทศไทยเองพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ได้ประพันธ์เนื้อเพลงภาษาไทยผนวกเข้ากับทำนอง Auld Lang Syne กลายเป็นเพลง สามัคคีชุมนุม นั่นเอง
ซาเทิร์นนาเลีย
ชาวโรมันโบราณได้รับอิทธิพลการจูบอันเนื่องมาจากเทศกาลซาเทิร์นนาเลีย (Saturnalia) ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพแซทเทิร์น (Saturn) เทพแห่งกาลเวลา ซึ่งสมัยก่อนเทศกาลนี้มีเพียงการปฏิบัติทางพิธีกรรมเท่านั้น ชาวโรมันจะใช้เวลาช่วงเทศกาลนี้ไปกับการเล่นการพนัน ร้องเพลง เล่นดนตรี เฉลิมฉลอง สังสรรค์ และมอบของขวัญให้กันและกัน เช่น การมอบเทียนไข (cerei) เป็นของขวัญ เพื่อสื่อถึงการกลับมาของแสงหลังจากครีษมายัน โดยผู้คนจะตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ของขวัญ และตะเกียงน้ำมัน
วันหยุดคริสต์มาสของคริสเตียนนั้นได้รับอิทธิพลจากประเพณีของชาวโรมันโบราณหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาของการฉลองคริสต์มาสด้วย ทำให้วัฒนธรรมตะวันตกในปัจจุบันรับเอาการเฉลิมฉลองแบบดั้งเดิมหลายอย่างมาจากเทศกาลซาเทิร์นนาเลีย ในคริสตศตวรรษที่ 4 คริสตจักรคริสเตียนตะวันตกได้ตัดสินใจฉลองคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคม ทำให้สามารถรวมวันหยุดนี้เข้ากับเทศกาลซาเทิร์นนาเลียและวันหยุดนอกรีตยอดนิยมอื่น ๆ ได้
โดยปัจจุบันก็ยังคงมีประเพณีที่มาจากเทศกาลนี้หลายอย่าง เช่น การให้ของขวัญ การร้องเพลง การจุดเทียน และงานเลี้ยงฉลอง ซึ่งการจูบเที่ยงคืนอาจมีรากฐานมาจากนิทานพื้นบ้านของเยอรมันและอังกฤษ โดยความเชื่อคือคนแรกที่คุณพบเจอในตอนต้นปีจะกำหนดโชคชะตาของคุณในปีใหม่ เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนเริ่มมีความกระตือรือร้นและมั่นใจว่าจะจูบคนที่พวกเขารู้จักและชอบในต้นปี ซึ่งก็ไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของประเพณีนี้
อาหารที่รับประทานแล้วจะโชคดี!
ช่วงปีใหม่มีความเชื่อเกี่ยวกับอาหารมากมาย ว่าหากได้รับประทานเหล่านี้แล้วจะโชคดี มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
รับประทานผักใบเขียว
ตามตำนานกล่าวว่า ยิ่งกินผักใบเขียวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ในตำนานยังได้มีเรื่องเล่าอีกว่าพืชตระกูลถั่วจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เนื่องจากพืชตระกูลถั่วและถั่วลันเตามีลักษณะคล้ายเหรียญ จีงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนจำนวนมากจึงกินถั่วตาดำ (black eyed peas) ในวันที่ 1 มกราคม
ดื่มไวน์
หลายคนเฉลิมฉลองวันปีใหม่ด้วยการเปิดขวดแชมเปญ ชาวอเมริกันดื่มไวน์สปาร์กลิงเกือบ 360 ล้านแก้วในช่วงเวลาดังกล่าว ไวน์สปาร์กลิงมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงที่ไม้ก๊อกถูกประดิษฐ์ขึ้น
กินองุ่น 12 ลูก
ในสเปนมีประเพณีที่ได้รับความนิยม คือ การกินองุ่น 12 ลูกในวันส่งท้ายปีเก่าในเวลาเที่ยงคืน เมื่อระฆังดังบอกเวลาเที่ยงคืนก็ให้นำองุ่นเข้าปากตามเสียงระฆังที่ดังกังวาล องุ่นเหล่านี้เป็นตัวแทนของเดือนทั้ง 12 เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภมาให้
ประเพณีนำโชคในวันปีใหม่
- ในเดนมาร์กมีประเพณีการทุบจานใส่ประตูหน้าบ้านของเพื่อนตอนเที่ยงคืน การพบจานชามแตกกองโตที่หน้าประตูบ้านถือเป็นเรื่องโชคดี เพราะหมายความว่าคุณมีเพื่อนที่ซื่อสัตย์มากมาย
- ในบางส่วนของอิตาลี ผู้คนต้อนรับปีใหม่ด้วยการทิ้งของเก่าออกไปนอกหน้าต่าง การโยนของเก่าออกไปจะทำให้มีที่ว่างสำหรับสิ่งของใหม่ ๆ ที่จะนำโชคเข้ามาในบ้านและในชีวิตปีหน้า
- ในเบลเยียม ผู้คนไม่ได้แค่อวยพรปีใหม่กับครอบครัวและเพื่อน ๆ เท่านั้น แต่ยังทักทายสัตว์เลี้ยงด้วย พวกเขาเชื่อว่าการพูดคุยกับสัตว์ต่าง ๆ จะนำโชคลาภและการมีสุขภาพที่ดีมาให้ในปีหน้า
- ในโรมาเนียว่ากันว่าการโยนเหรียญลงแม่น้ำในวันส่งท้ายปีเก่าจะนำโชคดีมาให้
- ในเม็กซิโก ครอบครัวบางครอบครัวจะโยนเหรียญ 12 เหรียญทิ้งหน้าประตูบ้านและกวาดเหรียญเข้าไปข้างในเพื่อต้อนรับความเจริญรุ่งเรือง
ประเพณีแปลก ๆ ในวันปีใหม่
- ในชิลี ผู้คนบางส่วนเฉลิมฉลองวันปีใหม่ที่สุสานเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวรวมถึงผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วเข้าร่วมงานฉลองด้วย
- ในบางเมืองของโคลอมเบีย คิวบา และเปอร์โตริโก มีประเพณีการทำตุ๊กตาผู้ชายที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำในปีที่ผ่านมา โดยสวมชุดของปีเก่า เรียกว่า Mr. Old Year เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ผู้คนจะจุดไฟเผาตุ๊กตานี้เพื่อลบความทรงจำที่ไม่ดีออกไป
- ในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นใกล้กับแหล่งน้ำ เช่น แคนาดา สหราชอาณาจักร และบางส่วนของสหรัฐอเมริกา มีการจัดกิจกรรมกระโดดลงน้ำเย็นจัด หรือที่เรียกว่า กิจกรรม Polar Plunge กิจกรรมเหล่านี้มักระดมทุนเพื่อการกุศลหรือสร้างความตระหนักรู้
Links to related Sites: - Saturnalia, britannica - Ten Fun New Year’s Facts & Traditions, todayslifeonline - Fun Facts About New Year That You Had No Idea About, leverageedu - 24 Fun Facts about New Year Traditions, ourmshome
I like to stay at home, writing random stuff and watching series. I enjoy learning new things and exploring new ideas.