ในภาษาเยอรมันคำว่า Torschlusspanik ประกอบด้วยคำนามเดี่ยวสามคำ ได้แก่ Tor (ประตู), Schluss (สุดท้าย, การจบ, การสิ้นสุด) และ Panik (ความตื่นตระหนก) เมื่อรวมกันแล้วก็สามารถเดาได้ว่าคำ ๆ นี้อาจหมายถึง ตื่นตระหนกวิตกกังวลว่า “ประตู” กำลังจะปิด

“ประตู” เป็นคำอุปมาที่อธิบายถึงความกลัวที่จะพลาดบางสิ่งบางอย่างเนื่องจากเวลาของคุณกำลังจะหมดลง อาจหมายถึง หมดโอกาสในการทำงาน การหาคู่ครอง หรือการมีลูก

Torschlusspanik จึงมีความหมายถึง ความกลัวว่าจะพลาดสิ่งสำคัญไป มักเกี่ยวข้องกับเวลา เช่น การกลัวว่าจะหมดโอกาสเพราะว่าอายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นอาการตื่นตระหนกเมื่อคุณคิดว่าชีวิตยังไม่ดีพอ และถ้าคุณไม่ลงมือทำทันที คุณก็อาจจะพลาดโอกาสต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

Torschlusspanik มีต้นกำเนิดจากยุคกลาง ในสมัยนั้นผู้คนรีบกลับเข้าเมืองตอนเย็นก่อนที่ประตูเมืองจะปิด ส่วนผู้โชคร้ายจะถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นด้านนอกประตู จึงเป็นที่มาของคำเปรียบเปรยที่ใกล้เคียงกับความรู้สึกของอายุที่เพิ่มมากขึ้น

ความรู้สึกวิตกกังวลว่าเวลาทองของคุณกำลังจะหมดลง ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากวิกฤตวัยกลางคน เป็นความกลัวว่าตัวเองจะอีกด้านหนึ่งของประตูที่ปิดลง ซึ่ง Torschlusspanik ไม่ได้มีไว้สำหรับที่อยู่ในช่วงวัยกลางคนเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวข้องกับอายุ เป็นการกลัวว่าโอกาสจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะต้องคว้าโอกาสตอนนี้ เพราะอาจจะไม่ได้รับโอกาสอีกครั้ง

เอาชนะสิ่งที่เรียกว่า Torschlusspanik

ไม่ไหลไปตามค่านิยมในสังคม

ปล่อยวางความรู้สึกที่จะต้องเป็นไปตามความคาดหวังของสังคมว่าคุณควรเป็นผู้ใหญ่ที่เหมาะสม เช่น การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของตัวเอง แต่งงาน มีลูก เป็นเจ้าธุรกิจบางอย่าง หรือแม้แต่ความกลัวที่จะหมดโอกาส เพียงเพราะอายุใกล้จะถึงเกณฑ์ที่สังคมกำหนด กลัวการเริ่มต้นงานใหม่ตอนอายุมาก เพราะในสังคมเชื่อว่าคนที่อายุเยอะแล้วจะไม่มีใครรับเข้าทำงานหรือการหางานจะเป็นไปได้ยาก ดังนั้นการไม่ไหลไปตามค่านิยมว่าต้องมีหรือต้องเป็นภายในอายุเท่านั้นเท่านี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และเป็นการรักษาความรู้สึกตัวเองอีกด้วย

ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนที่คุณรักให้คุ้มค่าที่สุด

แม้ว่าในตอนนี้สมาชิกในครอบครัวต่างก็ดูแข็งแรง แต่ในวันหนึ่งพวกเราต่างก็ต้องตายจากกันไป คุณจะคิดถึงพวกเขาและเสียใจกับช่วงเวลาที่เคยทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เสียเวลากันไปกับสิ่งที่มันไม่สำคัญ

อย่าสนใจว่าคนอื่นจะพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับคุณ

เป็นเรื่องยากที่คุณจะไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นคนรู้จัก คนแปลกหน้า หรือคนอื่น ๆ ในสังคม คุณอาจจะต้องใช้ความพยายามหลายปีในการไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ มันอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดีเป็นบางครั้ง แต่อิสรภาพที่คุณได้รับในตอนท้ายมันจะคุ้มค่าแน่นอน

ทำอะไรให้ได้ด้วยตนเอง

ไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณนอกจากตัวเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณหรือคนรอบตัว คุณคือคนที่ต้องใช้ชีวิตในวันสุดท้ายไม่ใช่ใครอื่น อย่ารอหวังพึ่งคนอื่นไปเสียทุกอย่าง (แต่ก็อย่าปากหนักจนไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากใคร) ให้ลงมือทำด้วยตัวเองเท่าที่จะทำได้ ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ ไม่ได้มีใครสนใจคุณขนาดนั้น

เรียนรู้ว่าคนแบบไหนที่เป็นคนใกล้ตัวที่ดีกับคุณจริง ๆ

เรียนรู้ในการเลือกไว้ใจคนใกล้ตัวที่ดีกับคุณจากหัวใจจริง ๆ หากคุณโชคดีที่มีคนในครอบครัวที่ดี นั่นก็จะรวมไปถึง พ่อแม่ พี่น้อง คุณป้า คุณย่า คุณยายที่เลี้ยงคุณมา นอกจากนี้คุณก็อาจจะมีเพื่อนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ประสงค์ดีและปรารถนาดีกับคุณจริง ๆ ค้นหาว่าพวกเขาเป็นใครและรักษาคนเหล่านี้ไว้ใกล้ตัว

ท้าทายตัวเอง

เมื่อล้มเหลวอย่าลืมเรียนรู้จากมัน และอย่าลืมเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นมา ไม่ประมาทกับทุกเรื่อง แต่ก็อย่ากลัวที่จะเสี่ยง ความกลัวในการตัดสินใจเรื่องสำคัญอาจทำให้คุณพลาดโอกาสที่ดีบางอย่างไป อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูบานใหม่จะเปิดเสมอ สิ่งดี ๆ กำลังรอคุณอยู่ อย่าเสียดายหรือผิดหวังกับสิ่งที่เคยเลือกพลาด พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะความกลัว เมื่อคุณเอาชนะมันได้คุณจะมีความสุขในท้ายที่สุด

หากลองทำรายการหรือเขียนถึงความสำเร็จของตัวเองในตอนนี้จากเมื่อหลายปีที่แล้ว ก็จะพบว่าตัวคุณก็เดินทางมาได้ไกล เมื่อเทียบกับตัวเองคนเมื่อก่อน นอกจากนี้อย่าให้ความสำคัญกับจุดหมายปลายทางมากเกินไปจนลืมที่จะสนุกสนานและมีความสุขระหว่างทาง ลองนั่งดูความสำเร็จที่คุณได้รับ หรือชัยชนะที่คุณมีดูสิ!

Torschlusspanik ของคุณล่ะเป็นแบบไหน?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *