หลังจากที่เราเขียนแนะนำซีรีส์ญี่ปุ่น ก็เลยนึกถึงภาพยนตร์จากญี่ปุ่นซึ่งมีหลาย ๆ เรื่องมาก ๆ ที่น่าสนใจ แต่ในวันนี้เราจะขอแนะนำเพียงแค่ 6 เรื่องที่เป็นหนังที่ตัวผู้เขียนชอบ ซึ่งหากใครกำลังมองหาหนังน้ำดีจากญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังดูได้เรื่อย ๆ และใช้เวลาในการไม่นานนัก ดูรวดเดียวจบ ลองดูรายชื่อหนังที่ด้านล่างนี้เลย

1.Nobody knows

เรื่องราวบีบคั้นอารมณ์ของเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 1988 ของสี่พี่น้องที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในอะพาร์ตเมนต์ย่านซูกะโมะเป็นเวลาหลายเดือน แต่เรื่องราวในฉบับหนังดูสวยงามกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ให้แม่ในเรื่องดูไม่ใจร้ายจนเกินไป เนื่องจากรู้สึกหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้เล่าถึง เคโกะ แม่ของเด็กทั้ง 4 คน แม่เดียวกันแต่คนละพ่อ (เรื่องจริงที่เป็นข่าวคือ แม่มีลูก 5 คนแต่คนที่ 3 ตายไปตั้งแต่เกิด) แม่ของเด็ก ๆ ไม่เคยพาลูกไปแจ้งเกิดขึ้นทะเบียน เด็ก ๆ ไม่เคยได้เรียนหนังสือ เมื่อย้ายเข้ามาอยู่ในอะพาร์ตเมนต์แม่ก็บอกกับเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ไปว่าเธอมีลูกเพียงคนเดียว โดยที่ใส่ลูกคนอื่นไว้ในกระเป๋าเดินทาง ทำให้แม่ต้องทำข้อตกลงกับลูก ๆ ว่าเด็ก ๆ ต้องอยู่กันอย่างเงียบ ๆ และห้ามไปข้างนอก วันหนึ่งแม่ของพวกเขาทิ้งเงินไว้ให้จำนวนหนึ่งพร้อมกับกระดาษใบหนึ่ง ว่าแม่จะออกไปข้างนอกสักพัก ให้ “อะคิระ” ลูกชายคนโตดูแลน้อง ๆ แต่ผ่านไปหลายเดือนแม่ก็ไม่กลับมาสักที…

เรื่องราวปัญหาของผู้ใหญ่ที่เด็กไม่ได้ก่อ แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่พร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเด็กได้จริง ๆ เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในสังคมญี่ปุ่นข่าวนึงที่ทำให้รู้สึกหดหู่ใจ และทำให้คนในสังคมญี่ปุ่นที่เน้นการอยู่แบบตัวใครตัวมันตื่นตัว และหันมาสนใจคนรอบ ๆ ตัวกันมากขึ้น คอยช่วยกันระมัดระวังไม่ให้มีเด็กคนไหนถูกทิ้งแบบนี้

นำแสดงโดย Yuya Yagira, Ayu Kitaura, Hiei Kimura, Momoko Shimizu, Hanae Kan

2.Death Note

จากหนังสือการ์ตูนยอดฮิตสู่ภาพยนตร์ฉบับคนแสดง ซึ่งในที่นี้เราจะพูดถึงภาพยนตร์ Death Note ver.ญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Light ชายหนุ่มผู้พบเจอสมุดบันทึก Death Note สมุดโน้ตมรณะ ที่ยมทูตทำตกไว้ หากเขียนชื่อใครลงไปในสมุดเล่มนี้จะต้องตาย จึงคิดวิธีกำจัดคนชั่วด้วยตัวเอง ด้วยการเขียนชื่อคนที่ทำผิดกฎหมายลง Death Note แต่วิธีการกำจัดคนชั่วของ Light ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะใครก็ตามที่ขัดขวาง Light ก็ต้องถูกเขียนชื่อลงสมุดโน้ตนี้ด้วยเช่นกัน ตำรวจพยายามอย่างหนักในการสืบหาความจริงจึงเชิญ L นักสืบที่เก่งกาจ เน้นเอาผิดคนชั่วตามหลักกฎหมายมาช่วยตามหาความจริง ด้วยอุดมการณ์ที่ต่างกันของทั้งคู่ ทำให้ทั้งสองฝ่ายใช้ไหวพริบในการตามแก้เกมของแต่ละฝ่าย นำแสดงโดย Kenichi Matsuyama, Fujiwara Tatsuya, Toda Erika 

ซึ่งในเวอร์ชันภาพยนตร์เราสามารถไล่ดูเรียงเรื่องราวไปได้เลยตั้งแต่

  • Death Note (2006)
  • Death Note: The Last Name (2006)
  • Death Note: L Change the World (2008)
  • Death Note: Light Up the New World (2016)

3.Kimi ni Todoke (live action)

เรื่องราวจากมังงะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงเกี่ยวกับ “ซาวาโกะ” เด็กสาวที่ถูกเพื่อน ๆ ในห้องตั้งฉายาว่าซาดาโกะ (รับบทโดย Mikako Tabe) เนื่องจากเธอมีบุคลิก ท่าทาง ทรงผม ที่ดูลึกลับน่ากลัวเหมือนกับผีซาดาโกะ แถมยังมีข่าวลือแปลก ๆ ว่าใครที่จ้องตากับซาดาโกะเกิน 3 วินาทีจะต้องเจอกับคำสาป ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ซาดาโกะ ยกเว้นแต่คาเซฮายะ (รับบทโดย Haruma Miura) หนุ่มหล่อป๊อปปูล่าที่มักคอยเข้ามาคุยกับซาดาโกะอยู่เสมอ วันหนึ่งคาเซะฮายะ ชักชวนเพื่อนในห้องเรียนไปท้าพิสูจน์สิ่งลี้ลับในสุสานโดยที่ได้ ซาวาโกะ และเพื่อนอีก 2 คน อาสาเป็นผีหลอกเพื่อนคนอื่น หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาทั้งหมดก็กลายเป็นเพื่อนกัน ถึงแม้ว่าซาวาโกะจะถูกเพื่อนคนอื่นหมั่นไส้และใส่ร้ายสักแค่ไหน แต่ความดีที่ซาวาโกะมีต่อผู้อื่น ทำให้เพื่อนซาวาโกะมั่นใจในตัวเธอว่าเธอจะไม่ทำแบบนั้น ลองดูเรื่องนี้แล้วคุณจะตกหลุมรักผู้หญิงที่ชื่อซาวาโกะจนอยากเอาใจช่วยเธอตลอดทั้งเรื่อง

ซึ่งหากได้ดูเรื่องนี้จนจบก็อาจทำให้หลาย ๆ คนนึกย้อนถามตัวเองว่าเคยตัดสินใครหรือถูกใครตัดสินเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกหรือเปล่า ถ้าเป็นตัวเราเองจะกล้าทำอย่าง คาเซฮายะ ด้วยการเข้าไปคุยกับคนที่ดูแปลกแยกจากคนอื่นโดยไม่สนใจคำนินทาของผู้อื่นหรือไม่

ซึ่งในเรื่อง Kimi ni Todoke เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกที่เราจะได้เห็นการแสดงความรักที่น่ารักกำลังพอดีของคาเซะฮายะที่มีต่อซาวาโกะ นอกจากนี้ยังชวนให้เรานึกถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน การเชื่อใจกัน การยอมรับในตัวตนของผู้อื่นที่แตกต่างจากตนเอง

4.Peach Girl (2017)

ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้วัยใสจากการ์ตูนตาหวานยอดฮิต ที่ก็ไม่ทำให้แฟนมังงะผิดหวังแถมยังได้ Inoo Kei จาก Hey! Say! JUMP มารับบทเด่นในเรื่องนี้ด้วย ≧◡≦

โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสาวผิวแทนโมโมะ (รับบทโดย Mizuki Yamamoto) ที่แอบรักเพื่อนสนิทโทจิ (รับบทโดย Mackenyu) ที่โมโม่ผิวสีแทนเนื่องจากเธอเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน เธอรู้มาว่าโทจิชอบสาวผิวขาว ก็เลยพยายามดูแลผิวตัวเองเพราะอยากให้ผิวของตัวเองขาวขึ้น แต่โมโมะไม่รู้ว่าโทจิก็ชอบเธอมาตั้งนานแล้ว ในขณะเดียวกันไคริ (รับบทโดย Inoo Kei) หนุ่มฮอตของโรงเรียนก็กำลังตามจีบโมโมะอยู่ ทำให้แฟนคลับของไคริรุมกลั่นแกล้ง และเรื่องราวก็ยุ่งอีรุงตุงนังมากกว่าเดิม เมื่อซาเอะเพื่อนของโมโมะ ต้องการแย่งโทจิรวมถึงทุกอย่างของโมโมะมาเป็นของตัวเอง มาดูกันว่าตอนจบโมโมะจะเลือกใครระหว่าง โทจิ กับ ไคริ

แม้ว่า Peach Girl ฉบับภาพยนตร์จะไม่ได้ลงรายละเอียดในบางเรื่องมากนักเนื่องจากมีระยะเวลาที่จำกัด แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ แม้จะเป็นหนังรักวัยรุ่นญี่ปุ่น แต่ก็ยังสื่อถึงชีวิตโรงเรียนมัธยมสไตล์ญี่ปุ่น ที่แฝงไปด้วยสิ่งที่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะพบเจอกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถูกบูลลี่ เรื่องเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ถ้าเธอได้ดีฉันจะไม่มีความสุข หรือแม้แต่เรื่องการถูกเปรียบเทียบของไคริกับพี่ชายของตัวเอง เป็นสิ่งอาจจะโดนใจวัยรุ่นหลาย ๆ คนที่กำลังโตและกำลังค้นหาตัวเอง

5.Sky of love (Koizora)

เรื่องราวความรักจากนิยายดังในมือถือสู่จอภาพยนตร์ที่กำกับโดย Natsuki Imai ที่ได้นักแสดงนำชายอย่าง Yui Aragaki และนักแสดงหญิง Haruma Miura มารับบทในเรื่องนี้

ซึ่งในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราว มิกะ (รับบทโดย Aragaki Yui) หญิงสาวที่ลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่ห้องสมุด แต่มีชายคนหนึ่งเก็บได้ก็เลยเซฟเบอร์โทรของเธอเก็บไว้ ในขณะเดียวกันเธอก็นึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์หาย จึงตามหามือถือของตัวเองจนหาเจอในที่สุด แต่หลังจากที่เธอได้มือถือคืนแล้วนั้นก็มีเบอร์แปลกหน้าติดต่อมาหาเธอแทบทุกวัน เมื่อคุยกันบ่อยเข้าเธอรู้สึกผูกพัน แต่เมื่อเธอได้พบว่าบุคคลลึกลับที่เธอพูดคุยมาตลอดเป็น ฮิโระ (รับบทโดย Miura Haruma) คนที่เธอมองว่าเป็นแหลวแหลกไม่แคร์โลกด้วยภาพลักษณ์ภายนอกที่ฮิโระย้อมผมสีขาวนั่นเองทำให้มิกะรู้สึกไม่พอใจ แต่เมื่อได้คุยกันในที่สุดมิกะก็เปิดใจคบด้วย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปฮิโระอยากเลิกกับมิกะทำให้มิกะเสียใจมากจนไม่อาจลืมรักครั้งนี้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปมิกะก็ได้รู้จักกับ ยู (รับบทโดย Koide Keisuke) เขาทั้งเป็นคนดีและเอาใจใส่มิกะมาก ๆ ทำให้เธอยอมคบกับเขา แต่หลังจากนั้นมิกะก็ได้รู้ว่าที่ฮิโระแฟนเก่าได้ทิ้งเธอไปเพราะเขาเป็นมะเร็ง ทำให้เขาไม่อยากรั้งมิกะเอาไว้.. มาเอาใจช่วยมิกะว่าจะทำยังไงต่อไป.. 

ด้วยเรื่องราวที่ทั้งเศร้าปนซึ้งกับทั้งพระเอกและนางเอกต้องฝ่าฝันกับมรสุมชีวิต ด้วยความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กันมันช่างสวยงาม เมื่อได้ดูเรื่องนี้ก็ทำให้เราต้องย้อนกลับมองดูตัวเองและคนที่เรารักเมื่อพบเจอปัญหาแทนที่เราจะผลักไสคนที่เรารักออกไปจากชีวิตแล้วเลือกที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาคนเดียว จะดีกว่าไหมหากเรามีคนที่รักเรามาร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันและใช้เวลาในทุกวินาทีให้คุ้มค่าเพราะไม่รู้ว่าจะต้องจากกันเมื่อไร แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณต้องเสียน้ำตา แต่มันก็เป็นตอนจบของเรื่องตามสูตรชีวิตจริงของโลกใบนี้อย่างที่ควรจะเป็น

6.Kimi no Suizo wo Tabetai

เป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย Kitamura Takumi, Oguri Shun, Hamabe Minami 

ในภาษาไทยที่มีชื่อว่า “ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ” เป็นเรื่องราวของ ชิเกะ คุณครูโรงเรียนมัธยมที่แต่ก่อนเคยเป็นเด็กหนุ่มหนอนหนังสือที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการห้องสมุดร่วมกับเด็กสาวคนหนึ่งนามว่า ซากุระ โดยเรื่องราวจะเล่าย้อนไปถึงเรื่องราวสมัยอดีตของชิเกะเจอบันทึกส่วนตัวที่เขียนว่า ฉันกำลังจะตายในไม่กี่ปีต่อจากนี้ ทำให้เขาได้รู้ว่าซากุระเป็นโรคที่เกี่ยวกับตับอ่อนและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ซากุระจึงชวนชิเกะออกไปทำภารกิจสุดท้ายที่ตัวเองอยากทำก่อนตาย ซึ่งซากุระชอบเล่าว่าเธอเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งว่าถ้าอวัยวะส่วนไหนอ่อนแอให้กินอวัยวะนั้นแล้วร่างกายจะแข็งแรงขึ้น และหากได้กินชิ้นส่วนจากร่างกายคนที่ตายไปแล้ว คน ๆ นั้นก็จะอยู่ในร่างกายของเราตลอดไป แต่ตอนนั้นชิเกะไม่ได้สนใจเท่าไรนักจนกระทั่งนางเอกเข้าโรงพยาบาล เวลาล่วงเลยมา 12 ปี เมื่อเขากลับมาเป็นครูมัธยมที่รับหน้าที่ดูแลห้องสมุดก็ทำให้เขาได้พบกับความลับของซากุระที่ถูกซ่อนอยู่ในบันทึกอีกครั้ง

ซึ่งในเวอร์ชันภาพยนตร์นี้การถ่ายทอดเรื่องราวที่ตัดภาพเหตุการณ์อดีตสลับกับปัจจุบันสื่อสารออกมาได้ไหลลื่น ไม่ทำให้คนดูงง และอินไปกับเรื่องราวได้ง่าย (อาจจะเสียน้ำตาได้ แนะนำให้เตรียมกำทิชชูไว้เลย) แถมเรื่องนี้ยังให้ข้อคิดในแง่บวก อย่างการใช้เวลากับคนที่เรารักให้ดีที่สุด ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราเห็นมิตรภาพดี ๆ ที่ทั้งสองมีให้แก่กัน เป็นการทำเพื่อใครสักคนที่ไม่หวังผลตอบแทนที่ซึ้งจริง ๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *