สถานการณ์เรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานยังคงน่าเป็นห่วงและไม่มีท่าทีที่จะหายไปจนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เราต้องหาทางหลีกเลี่ยงและป้องกันมลพิษด้วยตนเอง วันนี้เราก็เลยมีวิธีการรับมือกับมลพิษมาฝากจ้า
ฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กจนขนจมูกของมนุษย์ไม่สามารถทำหน้าที่กรองฝุ่นได้ ทำให้ฝุ่นชนิดนี้เป็นพาหะนำสารอื่น ๆ อย่างเช่น สารแคดเมียม โลหะหนัก ปรอท ฯลฯ เข้าสู่ร่างกายของพวกเราด้วย ฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นอันตราย และก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพตามมา อย่างเช่น เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ทำร้ายเซลล์ผิวหนังทำให้ผิวหนังอ่อนแอ โรคหอบหืด และระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสิ่งนี้สามารถเป็นอันตรายต่อร่างกายของคนทุกวัย หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงของคุณได้
และเนื่องจากทุกคนมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำแตกต่างกัน ต้องออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียน ไปทำงาน ชอปปิง หรือทำธุระต่าง ๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องเจอกับมลพิษ ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำงานจากที่บ้าน หรืออยู่ในคอนโดทั้งวันเพื่อหลบฝุ่นควันได้ สิ่งที่เราทำได้อย่างหนึ่งก็คือระมัดระวังไม่ให้สถานการณ์ลวร้ายไปกว่าเดิม การรักษาสุขภาพตามคำแนะนำด้านล่างนี้จะช่วยลดการปะทะกับการเจอมลพิษในชีวิตประจำวัน ให้สุขภาพของคุณดีขึ้นไม่แย่ลงไปกว่าเดิม
1.สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น
เมื่อออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ซึ่งหน้ากากที่ป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ดีต่อสุขภาพคือ หน้ากาก N95 หรือสวมหน้ากากที่มีฟิลเตอร์ 3 ชั้น ซึ่งมักมีเขียนระบุไว้ว่าสามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ หรือถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็ให้สวมหน้ากากอนามัยธรรมดาทับ 2 ชั้น หรือซ้อนผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชูไว้ด้านในก็ได้
2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกบ้าน
พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศเริ่มเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เปลี่ยนจากการออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นออกกำลังกายภายในบ้านหรือออกกำลังกายในพื้นที่ปิดอย่างฟิตเนสแทน รวมถึงจำกัดการเล่นนอกบ้านของเด็ก ๆ จนกว่าคุณภาพอากาศจะดีขึ้น
3.สมุนไพรฟื้นฟูร่างกาย
มนุษย์เรามีการใช้สมุนไพรมานานมากโดยส่วนใหญ่แล้วเน้นใช้ดูแลรักษาตนเองในเบื้องต้น ทราบหรือไม่ว่ามีพืชหลายชนิดรอบ ๆ ตัวที่สามารถช่วยต่อสู้กับมลพิษในอากาศที่ส่งผลเสียกับร่างกายของมนุษย์ได้ ทั้ง โลบีเลีย (Lobelia), ยูคาลิปตัส (Eucalyptus), ลังเวิร์ต (Lungwort), ออริกาโน (Oregano), ใบกล้าย (Plantain Leaf), เอเลแคมเพน (Elecampane) และเปปเปอร์มิ้นท์ (Peppermint) ที่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย หายใจโล่งจมูกขึ้น ไม่แน่นหน้าอก ช่วยลดอาการไอ จาม และต่อมน้ำเหลือบวม นอกจากนี้พืชเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติต้านฮิสทามีนและต้านอนุมูลอิสระ และช่วยต้านสารพิษที่อาจทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้บางชนิดก็เหมาะกับการบริโภคเป็นอาหาร ชงชา หรือผสมเครื่องดื่มสมุนไพร แต่บางชนิดก็ใช้รักษาด้วยการสูดดมกลิ่นดังนั้นจึงควรเช็ครายละเอียดให้ดี
ปล.หากกำลังใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ ก็ควรขอคำแนะนำจากหมอก่อนที่จะใช้สมุนไพรเหล่านี้
4.ปลูกต้นไม้ดูดสารพิษ
แม้จะอยู่ภายในอาคารก็สามารถเผชิญกับอากาศเป็นพิษส่งผลเสียกับร่างกายได้เช่นกัน ลองปลูกต้นไม้ฟอกอากาศช่วยดูดสารพิษ อย่างเช่น พลูด่าง, เบญจมาศ, ฟิโลใบหัวใจ, เดหลี, กล้วยไม้หวาย ฯลฯ เพื่อช่วยให้อากาศภายในอาคารบริสุทธิ์ขึ้น
5.ใช้เครื่องฟอกอากาศ
เพื่อให้ภายในอาคารที่คุณอาศัยอยู่มีอากาศที่บริสุทธิ์ หายใจได้สะดวก และช่วยให้คุณผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อย่าลืมใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ด้วย
6.ทำให้บ้านอากาศถ่ายเท
ถ้าบ้านไม่ได้อยู่ใกล้กับแหล่งจราจรหรือไม่ได้ติดถนนใหญ่ ช่วงเวลาประมาณ 15.00 – 17.00 น. เป็นช่วงเวลาที่แดดกำลังดี อากาศจะมีความบริสุทธิ์และปราศจากสารอันตรายมากขึ้นถึง 2.5 เท่า สามารถเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้
นอกจากนี้การเก็บบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่สูบบุหรี่ในอาคาร หลีกเลี่ยงการจุดธูปเทียน ไม่ใช้เครื่องดูดฝุ่น (ยกเว้นว่าถ้าเครื่องดูดฝุ่นของคุณมีแผ่นกรองอากาศ HEPA) ให้เปลี่ยนเป็นการถูพื้นแบบเปียกสามารถช่วยลดฝุ่นภายในบ้านได้
7.ดูแลผิวให้มีสุขภาพดี
หลังกลับมาจากข้างนอกฝุ่นละอองก็อาจจะเกาะอยู่บนเสื้อผ้า ผิวหนัง หรือเส้นผม วิธีง่าย ๆ เลยก็คือ ให้อาบน้ำทันที ทาครีมกันแดด และบำรุงผิว และอย่าลืมทากันแดดซ้ำทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน ดร.สตีเวน หวัง (Dr.Steven Wang) ผู้อำนวยการด้านผิวหนังที่สถาบัน Memorial Sloan Kettering Cancer Center of Basking Ridge ได้ศึกษาผลกระทบของมลพิษในอากาศที่มีผลต่อผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งเคล็ดลับยอดนิยมของเขาก็คือ ให้ทาครีมกันแดดในตอนเช้า ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน และก็ต้องไม่ลืมดูแลผิวเมื่อออกเดินทางด้วย
8.ทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และ กรดไขมันโอเมกา
รับประะทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียม และไขมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยต้านมลพิษและเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ท่ามกลางฝุ่นที่หนาแน่นและไม่มีท่าทีจะลดลงแบบนี้ ลองนำวิธีดูแลตัวเองเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู จะได้มีสุขภาพที่ดีไม่เจ็บไม่ป่วยจ้าาาา
Information sources: 1.cambridgemas: Remedies for fighting air pollution and promoting respiratory health 2.nytimes: How to Protect Yourself From Air Pollution While Traveling 3.girlstyle: Ways To Take Precaution Against Smog 4.airnow: Extremely High Levels of PM2.5: Steps to Reduce Your Exposure 5.lung: Tips to Protect Yourself from Unhealthy Air 6.timesofindia: step guide to protect yourself from Delhi's nasty pollution
I like to stay at home, writing random stuff and watching series. I enjoy learning new things and exploring new ideas.