การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน ฯลฯ อาจดูเป็นเรื่องที่ยาก ยิ่งภาษาเหล่านี้ไม่ใช่ภาษาแม่ของเราด้วย ยิ่งต้องฝึกฝนมากกว่าคนที่พูดภาษาเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน แต่หากรู้วิธีการฝึกฝน และหมั่นเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าภาษาไหน ๆ ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเราแน่นอน
และเคล็ดลับที่เรากำลังจะบอกด้านล่างนี้ เป็นวิธีการฝึกฝนภาษาที่เราเคยได้รับคำแนะนำ บ้างก็อ่านเจอ จึงได้ลองนำมาฝึกฝนด้วยตนเอง ซึ่งทั้ง 15 ข้อด้านล่างนี้แหละที่จะทำให้ทักษะทางภาษาของพวกเราพัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม ใช้ได้กับทุกภาษาเลยヾ(*´∀`*)ノ
1.เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทุกวัน
จดจำคำศัพท์ใหม่ ๆ ในทุก ๆ วัน วันละนิดวันละหน่อย อย่างเช่น เราอาจจะกำหนดกับตัวเองว่า ฉันจะท่องศัพท์วันละ 10 คำ สัปดาห์นึงเราก็จะรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น 70 คำแล้ว การที่เรารู้คำศัพท์เยอะ ๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เวลาที่เราจะต้องสนทนาภาษาต่างประเทศ จะทำให้พูดอธิบายสิ่งที่เราต้องการจะสื่อได้ชัดเจนกว่า
2.แปะคำศัพท์ไว้ตามที่ต่าง ๆ
แปะคำไว้ตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้คำศัพท์เหล่านี้ผ่านตา และจดจำได้โดยอัตโนมัติ อย่างตอนสมัยแอดมิชชั่น ˇ▽ˇ เรามักแปะคำศัพท์ไว้ตามจุดต่าง ๆ อย่างเช่น ในกำแพงห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า หนังสือ ฯลฯ โดยอาจจะเขียนแยกเป็นหมวดหมู่ หรือท่องตามทำนอง ก็ช่วยให้จำคำศัพท์เหล่านั้นได้จนถึงทุกวันนี้
3.ฝึกอ่านข่าวต่างประเทศ
การอ่านข่าว นิตยสาร หรือแม้แต่หนังสืออ่านนอกเวลา จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับคำศัพท์และรูปประโยคของภาษาต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งการอ่านหนังสือยังทำให้เรามีมุมมองความคิดและทัศนคติที่เปิดกว้างขึ้นด้วย
4.ฝึกอ่านออกเสียง
ถัดจากข้อ 3 แนะนำว่าควรจะฝึกฝนการอ่านหนังสือออกเสียงบ้าง เพื่อให้ลิ้นไม่แข็ง พูดภาษาต่างประเทศได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และหากคำไหนที่ไม่แน่ใจว่าออกเสียงอย่างไร ก็ให้ฟังการออกเสียงในดิกชินนารีออนไลน์ ก็จะได้ฝึกการออกเสียงคำ ๆ นั้นที่ถูกต้อง
5.ฝึกฟังภาษาต่างประเทศจากการฟังวิทยุ พอดแคสต์ หรือการดูหนัง
ปัจจุบันมีช่องทางการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมากมาย การเรียนภาษาที่ 2 3 และ 4 ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปแล้ว อย่างพอดแคสต์ของ The Standard อย่างเช่น We need to talk, คำนี้ดี การดูทีวีช่องต่างประเทศ หรือแม้แต่การดูคลิปฝึกภาษาจากยูทูปเบอร์ หรือคลิปฝึกภาษาที่ช่อง easy languages ที่มีหลากหลายภาษาให้เราได้ฝึกทั้งการฟังและการพูด ผ่านการสัมภาษณ์ผู้คนบนท้องถนนจริง ๆ หรือจะดูหนังต่างประเทศจากโทรทัศน์ หรือเว็บดูหนังออนไลน์ที่มีซับไตเติ้ลหลากหลายภาษาให้เราเลือก ก็ช่วยพัฒนาภาษาของเราให้ดีขึ้นได้ในทุก ๆ วันเช่นกัน
6.เรียนรู้ภาษาต่างประเทศจากเว็บไซต์
ปัจจุบันมีเว็บไซต์มากมายที่มีการสอนภาษาต่างประเทศทั้งแบบฟรีและเสียเงิน รวมถึงมีคอร์สเรียนออนไลน์มากมาย ชนิดที่ว่าไม่ต้องออกจากบ้าน เดินทางไปเรียนที่สถาบันให้เสียเวลาเลย
7.หัดคิดและตอบเป็นภาษาต่างประเทศ
ลองคิดและตอบคำถามกับตัวเองเป็นภาษาที่เรากำลังศึกษาอยู่ รวมถึงการพูดออกมาคนเดียว หรือถ้าอายก็ลองพูดใส่กล้องเหมือนกับการ Vlog ก็สามารถช่วยให้คุณสื่อสารภาษาต่างประเทศในสถานการณ์จริงได้คล่องแคล่วขึ้น
8.ฟังภาษาต่างประเทศก่อนนอน
เทคนิคนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับคนที่ชอบนอนเงียบ ๆ ไม่มีเสียงรบกวน แต่ถ้าใครชอบเปิดทีวีนอนจะนำเทคนิคนี้ไปใช้ก็ได้นะ ลองเสิร์ชในยูทูปจะมีคลิปฟังภาษาต่าง ๆ ก่อนนอนอยู่เต็มไปหมด เปิดทิ้งไว้ฟังเพลิน ๆ ก่อนนอน จะทำให้หูของเราคุ้นชินกับภาษาต่างประเทศมากขึ้น
9.การเลียนแบบ
ฝึกพูดตามหรือพูดเลียนแบบภาษาจากสถานการณ์จริง หรือจากคลิปของคนอื่นที่ไปอยู่ในสถานที่ตรงนั้นจริง ๆ ก็ได้ เทคนิคนี้จะทำให้เราเลือกใช้คำศัพท์ได้ถูกต้องกับบริบท โดยเฉพาะคำศัพท์ภาษาถิ่นและคำศัพท์วัยรุ่น เวลาเจอสถานการณ์จริง ๆ ก็จะสามารถพูดคำที่เคยได้ยินคนอื่นพูดมาก่อนได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยให้เราได้เลียนแบบสำเนียงของเจ้าของภาษาได้อีกด้วย
10.เรียนรู้จากเพลง
การฝึกภาษาต่างประเทศจากเพลงก็มีความคล้ายกับการดูหนังและการอ่านหนังสือ ตรงที่เราจะได้รู้สำนวนและคำศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ การฟังเพลงที่มีนองจะทำให้เราจำรูปประโยคได้ง่ายกว่า เนื่องจากบทเพลงจะมีความเป็นทำนองที่คล้องจอง อย่างเช่น เพลงกล่อมเด็กที่ชอบให้เด็ก ๆ ฝึกร้องกันนั่นเอง
11.แกรมม่าก็สำคัญ
การฝึกภาษาใดภาษาหนึ่งแกรมม่าก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่จะทำให้เราใช้ภาษานั้น ๆ ได้อย่างถูกต้อง อย่างน้อยก็จำเอาไว้ว่าเวลาที่ต้องการสนทนาให้เป็นประโยคก็ต้องมี ประธาน กริยา กรรม แต่ถ้าเราเริ่มต้นฝึกพูดกับชาวต่างชาติสิ่งที่สำคัญมากกว่าแกรมม่าก็คือ “ความกล้า” เพราะฉะนั้นอย่ากังวลเรื่องหลักแกรมม่าในการพูดสื่อสาร จนทำให้ลดความมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป!
12.หมั่นจดบันทึก
การฝึกเขียนภาษาที่กำลังฝึกฝน ก็สามารถช่วยในเรื่องการเขียนได้เช่นกัน ลองเขียนไดอารี่ หรือจดบันทึกเป็นภาษาต่างประเทศ ก็ช่วยให้เราได้ฝึกการเลือกใช้คำศัพท์ และการเขียนได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น
13.เรียนรู้เหมือนเด็ก
ลองคิดแบบเด็ก ๆ ไม่คิดซับซ้อน และใช้คำง่าย ๆ ในการสื่อสารทั้งการพูดและการเขียน จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างไหลลื่น นอกจากนี้การจดจำคำศัพท์จากภาพ หรือแม้แต่จดจำประโยคพื้นฐานที่ใช้บ่อย ๆ เหมือนเด็ก ๆ ที่กำลังหัดเรียนรู้ จะทำให้คุณเป็นภาษานั้น ๆ เร็วขึ้น อย่างที่ได้บอกไว้ในข้อที่ 10 ที่ลองหัดฝึกภาษาจากเพลงกล่อมเด็ก
14.เรียนรู้จากความผิดพลาด และจดจำสิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อไรก็ตามที่ใช้ภาษาเหล่านั้นผิดบริบทอย่าหมดความมั่นใจ แต่ให้ลองพูดใหม่อีกครั้งในแบบที่ถูกต้อง จะทำให้เราจดจำข้อผิดพลาดในการใช้ภาษา และครั้งต่อไปก็จะนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
15.ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
หากคุณไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้น ๆ ในชีวิตประจำวันก็ให้หมั่นฝึกฝน ภาษาถ้าเราไม่ได้ใช้มันก็ลืม เพราะฉะนั้นอย่าลืมฝึกฝนภาษาที่คุณกำลังเรียนอยู่ในทุก ๆ วันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกจากการดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ ได้ทั้งนั้น
ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู เพราะบางเทคนิคก็อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน และอย่าลืมว่าภาษาก็คือการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง อีกทั้งภาษาเหล่านี้ก็ไม่ใช่ภาษาแม่ของเราด้วย ดังนั้นขอเพียงแค่กล้าใช้ กล้าสื่อสารไม่ต้องกลัวผิด ฝึกฝนมันต่อไป อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ สักวันก็จะเก่งขึ้นเองจ้า
I like to stay at home, writing random stuff and watching series. I enjoy learning new things and exploring new ideas.