วาว วาว เสียงรถไฟวิ่งไป ฤทัยครื้นเครง เรามันคนกันเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ♫ ที่ต้องฮัมเพลงนี้ออกมา เพราะว่าเราจะพาทุกคนเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษ 909 วิ่งผ่านเส้นทางรถไฟสายมรณะ สู่น้ำตกไทรโยค กาญจนบุรี แบบไปเช้าเย็นกลับ
ก่อนเดินทางหนึ่งสัปดาห์เราโทรไปสำรองที่นั่งที่เบอร์โทร 1690 โชคดีที่ยังมีที่ว่างเหลือ (แนะนำว่าให้โทรจองล่วงหน้าหรือไปจองที่สถานี เราเคยโทรไปใกล้ ๆ วันเดินทางปรากฎว่าตั๋วเต็มจ้า)
เจ้าหน้าที่จะถามวันที่ต้องการเดินทาง ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ทั้งของเราและผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วย (ถ้ามี) เราเลือกจองตั๋วรถไฟปรับอากาศ ที่นั่งละ 240 บาท (ถ้ารถพัดลม คนละ 120 บาท) เมื่อสำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้รหัสรับตั๋วมา เราก็ต้องเอาเลขตั๋วนี้ไปแจ้งเพื่อรับตั๋วและจ่ายเงินที่สถานีรถไฟใกล้บ้านภายในวันถัดไป
วันเดินทาง
ออกจากบ้านตี 5 มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางหัวลำโพง
หน้าตาตั๋วรถไฟขบวนพิเศษ เก็บไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วก่อน
เราเดินงง ๆ หาขบวนรถไม่เจออยู่สักพัก เลยตัดสินใจไปถามประชาสัมพันธ์ เลยเดินมาดูรถที่ชานชาลาที่ 11 หน้าชานชาลาจะมีป้ายติดไว้สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟขบวนพิเศษน้ำตก / สวนสนประดิพันธ์
มารอก่อนเวลาก็จะมืด ๆ ประมาณนี้ แต่ที่จริงมาถึงแล้วก็ขึ้นไปนั่งรอบนรถได้เลยนะ
เจอแล้ว เราขึ้นรถไฟคันที่ 2/1 (หากขึ้นคันที่ 2 เฉย ๆ ก็ขึ้นอีกตู้หนึ่ง)
เดินดูเลขที่นั่งที่แปะอยู่ริมหน้าต่าง นั่งรอเวลา
รถไฟออก 6.30 น. ตรงเวลาเป๊ะ ขาไปเหมือนกำลังนั่งถอยหลัง
รถไฟมุ่งหน้าสู่สถานีสามเสน > ชุมทางบางซื่อ > ตลิ่งชัน > ศาลายา > แวะจุดหมายปลายทางแรกนครปฐม
เมื่อใกล้ถึงจุดหมายแรก องค์พระปฐมเจดีย์ ก็จะมีเจ้าหน้าที่รถไฟมาพูดแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมบอกเวลาที่รถไฟจะออกในรอบถัดไป เจ้าหน้าที่เตือนว่าให้มาให้ทันเวลา ถ้ามาไม่ทันอาจจะได้เที่ยวแค่นครปฐมทั้งวันแทน อิอิ
ถึงแล้ว สถานีนครปฐม
จะแวะทานอาหารหรือซื้ออาหารขึ้นไปกินบนรถก็ได้ อย่าลืมซื้อน้ำตุนเอาไว้ เนื่องจากรถไฟขบวนพิเศษเป็นรถไฟนำเที่ยวไม่มีอะไรขายเท่าไหร่
เจ้าหน้าที่ได้บอกเอาไว้ว่าควรจะเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะมีเวลาแค่ 40 นาที เราก็เลยไม่เข้าไปไหว้พระด้านใน และเลือกที่จะเดินซื้ออาหารและขนมทานเล่นไปทานบนรถ แวะเข้าห้องน้ำที่สถานีให้เรียบร้อย และถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศบริเวณรอบ ๆ แทน (อ้อ! แต่ก็มีเวลาพอให้ได้ใส่บาตรพระที่ตลาด)
รถไฟออกจากสถานีนครปฐมเลทไป 5 นาที แต่ก็ถือว่าทำเวลาได้ดีอยู่
จากนครปฐม > ชุมชนหนองปลาดุก > กาญจนบุรี > วังเย็น > ท่ากิเลน > ถ้ำกระแซ
นั่งรถไฟไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงจุดหมายปลายทางต่อไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว
คนเยอะมากกกกกกก
ที่นี่เรามักจะเห็นเด็ก ๆ มาเล่นดนตรี ร้องเพลง เปิดหมวก เพื่อหารายได้เสริม เอาไว้เป็นทุนการศึกษา
เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์
วันหยุดคนจะอัดแน่นแบบนี้แหละ
เมื่อถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็ขึ้นไปนั่งรอบนรถไฟ เมื่อรถออกเดินทางได้สักพัก ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาขายอาหารขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัด ให้เราเลือก และจ่ายเงินเอาไว้ ขากลับเขาก็จะของนำมาจัดส่งให้
(ปล. เราสั่งอาหารและขนมไปเยอะมาก ๆ แต่ได้ของไม่ครบ เพราะอาหารและขนมมาส่งทีละอย่าง ไม่ได้แพ็กมาให้ทีเดียว ก็เลยถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็ดีนะ ตามให้เลย ว่าใครเอาของที่เราสั่งและจ่ายเงินไปแล้วติดไปบ้าง ได้อาหารกลับคืนมา แต่ขาดไปอย่างนึง แต่ไม่รู้ใครเอาไปกินแล้ว เจ้าหน้าที่ก็รับผิดชอบด้วยการคืนเงินให้ด้วย เห็นใจก็แต่เจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบจ่ายเงินคืนให้นี่แหละ)
บรรยากาศข้างทางก่อนถึงน้ำตกไทรโยค
เนื่องจากเรานั่งรถไฟปรับอากาศ ยื่นหัวออกไปด้านนอกไม่ได้ หากต้องการไปถ่ายรูปชัด ๆ มีไกด์พูดให้ฟังสนุก ๆ ต้องเดินที่ไปตู้พัดลม ภาพที่ออกมาก็เลยจะประมาณนี้
เจ้าหน้าที่แนะนำว่าใครอยากขอพรก็ให้นำมือแตะหน้าผา อธิษฐานแล้วนำมาแตะหน้าผาก คำขอก็จะเป็นจริง ใครอยากขอให้ถูกหวยก็ลองดูนะจ๊ะ
ระหว่างนั้นรถไฟก็แล่นผ่านถ้ำกระแซ และผ่านจุดที่เคยมีฉนวนระเบิดที่ได้คร่าชีวิตของเหล่าเฉลยศึกไปมากมาย
ยืมภาพสวย ๆ มาจากเว็บท่องเที่ยวไทยจ้า